ผู้คนมักสงสัยว่าเรามีหลักในการเลือกแบรนด์มาลงที่ Denimio อย่างไร เราไม่ได้มีเคล็ดลับตายตัวสำหรับสิ่งนี้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นแบรนด์ใดมีความต่างจากแบรนด์อื่นเพียงเล็กน้อย เราก็รู้สึกสนใจแบรนด์นั้น ตอนนี้เองก็มีแบรนด์เดนิมญี่ปุ่นให้เลือกมากมายทำให้แบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาตีตลาดลำบากไม่น้อย อย่างไรก็ตามแบรนด์ที่คุณพบมาอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ความทุ่มเทผ่านชิ้นงานหรือสินค้า นั่นเป็นจุดที่คุณจะรู้ได้ถึงความพิเศษของสินค้าแบรนด์นั้น ๆ ซึ่งเหมือนอย่างเช่น COTTLE ตอนนี้คุณจะได้ทราบว่าทำไมเสื้อผ้าของแบรนด์นี้ถึงมีความน่าสนใจและเป็นเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ได้ทุกวัน
จริง ๆ แบรนด์ COTTLE ก่อตั้งมาราว 2-3 ปีแล้ว แต่ผู้ก่อสร้างเริ่มต้นธุรกิจจริงจังเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2015 ในโคจิมะ จังหวัดโอกายาม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นแหล่งกำเนิดผ้าเดนิมญี่ปุ่น ภูมิภาคนี้เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมสิ่งทอของญี่ปุ่น โรงงานส่วนใหญ่และโรงงานย้อมสีผ้าเดนิมอยู่ที่นี่!
สิ่งสวยงามอย่างแรกที่เราได้ศึกษา COTTLE คือ ผู้ผลิตไม่ได้เช่าสำนักงาน แต่ได้ซื้อโรงงานทอผ้าเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมและบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และนี่คือประวัติศาสตร์ 120 ปีที่อาจจะเลือนหายไปแล้ว พวกเขายังนำเครื่องจักรเก่า ๆ และเครื่องทอด้วยมือจำนวนมากกลับมาฟื้นคืนชีวิต พวกเขาไม่เพียงแต่เปลี่ยนโรงงานเก่าแห่งนี้ให้เป็นออฟฟิศที่ทันสมัยและสตูดิโอที่กว้างขวางเท่านั้น COTTLE ยังคงดำเนินการผลิตในห้องโถงเก่าเหล่านี้ ซึ่งเป็นวิธีการที่น่าชื่นชม น่าประทับใจ พวกเขาต้องการสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดความคิดไปยังผลิตภัณฑ์ พวกเขาออกแบบในสตูดิโอส่วนตัวและดำเนินขั้นตอนการผลิตโดยตรงจากในโรงงานของตัวเอง พวกเขาปรับแต่งการออกแบบเองในทางที่เห็นว่าเหมาะสม โดยไม่ได้ลอกเลียนแบบจากที่ใด เวิร์คช้อปของพวกเขามาพร้อมกับจักรเย็บผ้าโบราณจำนวนมากซึ่งมีอายุเก่าแก่หลายทศวรรษ และเครื่องมือเก่าชินดอื่น ๆ สำหรับตัดผ้าเพื่อผลิตสินค้าได้ทันที เราจึงรัก COTTLE ที่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้!
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบคือ COTTLE ดำเนินการผลิตโดยคผู้ที่ไม่ได้เป็นแค่นักออกแบบและนักการตลาดเท่านั้น แต่พวกเขาเป็นช่างฝีมือที่ชำนาญด้วย ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งนั้น COTTLE เป็นผลงานของ Toshiaki Watanabe หรือเราเรียกเขาสั้น ๆ ว่า Toshi-san (โทชิซัง) (ซึ่งจะมีการสัมภาษณ์พิเศษกับเขาในเร็ว ๆ นี้ เตรียมจับตาดูเขาให้ดี ๆ!) โทชิซังเกิดในเมืองคุราชิกิ จังหวัดโอกายาม่า ปัจจัยสำคัญที่เราตกหลุมรัก COTTLE คือ โทชิซังเองมีความทุ่มเทและมีปรัชญาส่วนตัวที่ไม่อาจต้านทานได้ เขาเป็นศูนย์รวมของคนที่มีชีวิตอยู่และยอมทำงานจนตัวตายเพื่อให้ได้ผ้าคุณภาพดี เมื่อเขายังเป็นเด็ก เขาตัวเล็กกว่าเพื่อนซึ่งเขามักถูกมองข้ามจากเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เองเสื้อผ้าจึงเป็นวิธีเดียวที่เขาจะแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนอื่น เพียงแค่การซื้อเสื้อผ้าไม่เพียงพอสำหรับโทชิซัง ในปีที่สองของโรงเรียนมัธยมต้น เขารู้ตัวเองว่าเขาต้องการเป็นช่างตัดเสื้อที่เป็นช่างฝีมือชำนาญและมีทักษะมากพอที่จะส่งความสุขผ่านผลิตภัณฑ์และสร้างความมั่นใจในตนเองกลับมา สิ่งสำคัญเกี่ยวกับโทชิซัง คือ การที่เขาทำตามความฝัน ชายผู้นี้มีวิสัยทัศน์ไกล เขาจะทำงานอย่างไม่ลดละจนกว่ามันจะกลายเป็นความจริง!
เมื่อเขาอายุครบ 18 ปี เขาก็กลายเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าที่มีฝีมือ เขาได้เดินทางบนเส้นทางการเรียนรู้เทคนิค การแต่งตัวและการทำชุดสูทในโรงเรียน แต่การเรียนรู้วิธีทำเสื้อผ้ายังไม่เพียงพอ เขารู้ว่าเขาไม่ต้องการเพียงแค่ทำตามแพทเทิร์นของคนอื่น เขาต้องสร้างรูปทรงและรูปแบบใหม่ของตัวเองให้ได้ ดังนั้นเขาจึงลงทะเบียนใน Bunka Fashion College สถานศึกษาอันทรงเกียรติในโตเกียวเพื่อไปศึกษาต่อเรื่องการออกแบบ มันเป็นช่วงเวลาที่โทชิซังค้นพบบทบาทที่โอคายาม่าให้เขาได้สรรค์สร้างเดนิมมาสู่พวกเรา เขาได้ตระหนักว่าบ้านเกิดของเขาเป็นสถานที่ขลังสุดสำหรับยีนส์ระดับโลก เขากลับจากโตเกียวเมื่ออายุ 21 ปี เขาก็ได้เริ่มทำงานในการวางแผนและการผลิตสิ่งทออยู่ที่โคจิมะ
เมื่อตอนที่เขายังเด็ก เขาไม่สนใจเส้นทางนี้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เสียงจากเด็กหนุ่มของตัวเขาเอง คือ เสียงที่มีชีวิตชีวาผ่านผ้าเดนิมเก่า ๆ จังหวะที่ถูกกำหนดโดยเสียงคลิกของผู้คนที่เหยียบคันจักรเย็บผ้า ทำให้รู้ว่านี่เป็นสถานที่เดียวในโลก ที่ทุกอย่างปกคลุมไปด้วยผ้ายีนส์ ซึ่งผ้ายีนส์เป็นสินค้าที่พบเห็นได้ทั่วไปอยู่ทุกวัน เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งเพื่อเทความรักที่มีให้กับสถานที่นี้สื่อผ่านผลิตภัณฑ์ ยีนส์เป็นงานแห่งความรักสำหรับโทชิ
โทชิซังมีความรู้แน่นมากด้านการออกแบบผ้าตั้งแต่เริ่มต้น เขารู้จักคนที่เหมาะสมในการหาแหล่งฝ้ายปั่นด้ายและทอผ้า ทุกคนรักโทชิซังและดูเหมือนว่าทุกคนในอุตสาหกรรมผ้าเดนิมเคยผ่านการทำงานร่วมกับเขามาบ้างแล้วด้วย หลังจากเรียนรู้ทุกอย่าง เขาก็พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป หลังจากนั้นอีก 8 ปี คือ ตอนเขาอายุ 29 ปี เขาเริ่มวางแผนแบรนด์ COTTLE ร่วมกับภรรยาของเขา Yukari (ยูการิ) เพื่อนร่วมชั้นที่ Bunka Fashion College และเป็นนักออกแบบเครื่องประดับมืออาชีพ อีกสองปีต่อมาเขาซื้อโรงงานของเขาเอง เป็นเวลาสามปีที่เขาหาแหล่งเครื่องจักรเพิ่มเติม จ้างพนักงานออกแบบฮาร์ดแวร์ สร้างตัวอย่าง พัฒนาแบบกระดุมคินต์ซูกิของตัวเอง และสร้างยีนส์ของเขาเองในปี 2018 เขาพร้อมทุกอย่างแล้ว เขาขอให้เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นจาก Bunka Fashion College เข้าร่วมงานและร่วมการเปิดตัว COTTLE บริษัทนี้ทำงานเหมือนเวิร์คช็อปครอบครัว เรารู้สึกเหมือนอยู่บ้านทันทีเมื่อเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมโรงงานเก่าของเขาเอง
ทั้งหมดหมายถึง ความปรารถนาที่จะเห็นผ้ายีนส์คุณภาพดีเป็นเสื้อผ้าที่มีติดบ้าน ยีนส์ระดับพรีเมียมในที่นี้แสดงถึงความหรูหราบางอย่าง ความหรูหราที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเรารู้ว่าพวกเขากำลังหมายถึงอะไร
เราจะเริ่มต้นกันด้วยยีนส์สองรุ่นจาก COTTLE เราเชื่อว่าสินค้าแบรนด์นี้จะเพิ่มยอดขายได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแน่นอน
ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า โทชิซังทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นด้านการพัฒนาผ้ามามากมาย คุณมีโอกาสที่จะได้ใส่กางเกงยีนส์ที่ทำจากผ้าเดนิมของเขาแล้ว ก่อนที่เขาจะเริ่มแบรนด์ COTTLE เขาได้พบกับประธานบริษัท KAPITAL ผู้ที่สอนให้เขาทำสิ่งต่าง ๆ บางครั้งต้องคิดนอกกรอบเพื่อปรับแต่งบางสิ่งที่ดีมากอยู่แล้ว โทชิซังดูแลเรื่องอัตราส่วนการผสมและวัสดุสำหรับผ้าของเขาเองเสมอ เขาศึกษาสีเท็กซ์เจอร์ น้ำหนัก จำนวนเส้นด้ายและอื่น ๆ จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้ผ้ายีนส์ตัวแรกของเขา ผ้าเดนิมชิ้นแรกของเขาคือ ผ้าดา ทอโดยเครื่องทอที่เรียกว่าไวด์สกรีน เขาใช้ฝ้าย 90% และป่าน 10% ขนาดผ้า 14 ออนซ์ (เดนิมหมายเลข CTL-5524) อย่างไรก็ตามเดนิมที่ได้จากฝ้ายและป่านยังไม่เพียงพอสำหรับเขา โทชิซังเริ่มทดลองผ้าต่อไปอีก!
เขาต้องการผ้าที่เบาขึ้นเพื่อสวมใส่ได้ตลอดทั้งปี ด้วยขนาด 12 ออนซ์ ยีนส์ซิกเนเจอร์ (CTL- 450) ของแบรนด์ ซึ่งประกอบด้วยฝ้าย 91 % และลินิน 9% หากคุณได้ลองสัมผัสยีนส์ของพวกเขาแล้ว คุณจะประหลาดใจถึงความนุ่มนวลของเนื้อผ้าที่ทอด้วยมือ ความสง่างามบางอย่างที่แฝงอยู่ และด้วยความที่ nep (ผิวหยาบบางส่วน) ทั้งหมดผ่านเข้ามาที่เท็กซ์เจอร์ ตัวผ้ายังไม่สมบูรณ์ดี จึงต้องผ่านขั้นตอนให้ลงตัวที่เส้นด้าย ผ้าลินินและผ้าฝ้ายหยาบถูกบิดเป็นเกลียวเหลือเส้นเดียว อัตราส่วนที่เหมาะสมมีความสำคัญมาก ผ้าลินินเหลือน้อยลงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ (จาก 10% ถึง 9%) ก็สร้างความแตกต่างได้แล้ว การทอแบบหลวม ๆ ทำให้กางเกงยีนส์ระบายอากาศได้ดีและเพิ่มเนื้อสัมผัส ซึ่งกลายเป็นผ้าเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ ต้องขอบคุณวัสดุที่มีคุณสมบัติยืดได้ตามธรรมชาติ ปริมาณของผ้าที่สามารถผลิตได้ในครั้งเดียวมีจำกัดและขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย กระสวยทอผ้าเก่าเป็นเครื่องจักรที่ไม่มีความเสถียรนัก เมื่อมันชื้นเกินไปก็ใช้ทอเส้นด้ายลินินไม่ได้ตามต้องการ เพราะจะทำให้หนามากเมื่อเครื่องชื้น ทีนี้เรามาดูเรื่องโครงสร้างของลายทอด้วยเครื่องทอผ้าที่มีทั้งหมดแล้วคุณจะอินมากขึ้น
ในเรื่องสีย้อมผ้านี้ก็มีความพิเศษ เฉดสีครามที่ผ่านขั้นตอนซ้ำหลายรอบ ทำให้ได้สีของกางเกงยีนส์ญี่ปุ่นชุดแรก (เชื่อใจเราโทชิซังเชี่ยวชาญสิ่งเหล่านี้ดี) สีที่สดใสนั้นชวนให้นึกถึงสีครามที่สวยงามผสานจิตวิญญาณทั้งเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน แต่ดูลึกลับเหมือนสถานที่ในชีวิตโทชิซัง “โรงเรียนที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น” คือ สถาบัน Kurashiki Honten Teori
มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่ศึกษาที่นี้ และต้องครีเอทชิ้นงานต่าง ๆ ระหว่างศึกษาอยู่หนึ่งปี พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับคลังภูมิปัญญาของชีวิตผ่านวิธีย้อมสีและการทอด้าย ประเพณีของสถานที่แห่งนี้ได้รับการสร้างและอนุรักษ์อย่างดีในคุราชิกิ โทชิซัง ได้ติดต่อกับผู้อำนวยการโรงเรียนศาสตราจารย์ Ishigami (อิชิกามิ) เพื่อร่วมมือกันผลิตผ้า พวกเขาทำงานร่วมกันเพื่อคิดค้นผ้าทอมือเป็นเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริมที่ทันสมัย COTTLE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างประวัติศาสตร์และขั้นตอนโบราณของแฟชั่นสมัยใหม่
พวกเขาพัฒนาสีย้อมที่มีสีครามและสีกลีบดอกไม้ธรรมชาติเพื่อสร้างโทนสียีนส์ที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นอย่างแท้จริง เส้นด้ายถูกย้อมด้วยมือและสีกลีบดอกไม้เป็นสูตรเก่าแก่ของสถาบัน Kurashiki Honten Teori ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้ยี่ห้ออื่น ทุกขั้นตอนที่กล่าวมานี้เป็นงานที่ต้องทำด้วยมือ ซึ่งเป็นการลงรายละเอียดในเนื้อผ้า ถ้าเปรียบเทียบคุณภาพและราคากับผ้า AIZOME คุณจะเข้าใจว่า COTTLE เสนอคุณภาพเนื้อผ้าไม่ต่างกันซึ่งคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปนั่นเอง
ยีนส์ริม selvedge ID ของแบรนด์นี้ก็โดดเด่นมาก ด้วยการออกแบบแนวศิลปะพื้นบ้านญี่ปุ่นที่โทชิซัง พบในเอกสารสำคัญของสถาบัน Kurashiki เป็นรูปแบบไม่ซ้ำใคร ถือได้ว่าเป็นยีนส์ที่มี selvedge ID โดดเด่นที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา ซึ่งสีตัดกันอย่างมากกับผ้ายีนส์สีครามและสีย้อมกลีบดอกไม้ Indian red selvedge นี้ย้อมด้วยมือ คุณจะสังเกต selvedge ID ได้จากบนกระเป๋าเหรียญและบริเวณด้านบนที่ปิดซิปหรือกระดุมของกางเกงยีนส์
ส่วนวิดีโอต่อไปนี้เป็นรายละเอียดอย่างกระชับเพื่อให้คุณชมวิธีการทำด้ายอินเดียนเรดว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ป้ายแพทช์หนังมีรูปทรงไม่ธรรมดา แสดงให้เห็นเกาะที่สวยงามในทะเลเซโตะ ภูมิทัศน์ของหมู่เกาะเซโตะ ซึ่งมองเห็นได้จากโคจิมะเป็นทรงกลมและเป็นเกาะที่มีดอกป๊อปปี้อยู่ในทะเล โทชิซังจึงออกแบบแผ่นป้ายแพทช์หนังนี้เมื่อภรรยาของเขาย้ายไปอยู่กับเขา และย้ายไปตลอดทางจากโยโกฮาม่า ช่างเป็นเรื่องราวส่วนตัวที่สะท้อนให้คุณเห็นว่าโทชิซังใส่ใจรายละเอียดและบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ในสินค้า
รายละเอียดสุดท้ายที่คุณต้องประทับใจ คือ กระดุมบน ซึ่งต่างจากแบรนด์อื่นที่มักสั่งซื้อจากซัพพลายเออร์รายใหญ่ (ซึ่งมีคุณภาพยอดเยี่ยมอยู่แล้ว) เพราะกระดุมส่วนใหญ่ปั๊มกดในเครื่องจักรขนาดใหญ่ แต่ COTTLE ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง โดยปั๊มกระดุมด้วยตัวเอง พวกเขาเทเหล็กที่หลอมละลายลงในแม่พิมพ์ซึ่งเป็นเทคนิคโบราณที่ใช้สำหรับสิ่งต่าง ๆ เช่น การหล่อรูปปั้นพระพุทธรูป ระหว่างหล่อจะต้องร่อนเกลี่ยไปด้วยทำให้ได้พื้นผิวเรียบมาก กระดุมทุกเม็ดทำโดยช่างผู้ชำนาญ แพทเทิร์นกระดุมเป็นวงกลมซ้อนทับและเชื่อมต่อกัน แกะสลักสามมิติด้วยลายเส้นประณีตอย่างมาก หากมองใกล้ ๆ กระดุมเพียงเม็ดเดียวก็คืองานศิลปะชั้นดีแล้ว
เราไม่อยากจะบิ้วให้มากความว่ารายละเอียดยิบย่อยของกางเกงยีนส์แบรนด์นี้มีมากเพียงใด ลองมาดูในเรื่องคัตติ้งของ COTTLE ที่ตอนนี้นำเสนอออกมาสองแบบ และเรามั่นใจว่าคุณต้องถูกใจแน่นอน
1. C.T.L STRAIGHT DENIM PANTS-BENGARA
นี่คือทรงปกติของแบรนด์ แค่เห็นก็สัมผัสได้ถึงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม! มาพร้อมกับกระดุมลอยและหมุดซ่อน ซึ่งชวนให้นึกถึงการผลิตผ้ายีนส์ในสมัยก่อน คุณภาพการตัดเย็บทรงยีนส์ที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถสวมใส่กับเสื้อเชิ้ตปล่อย ๆ ก็ได้ ทรงยีนส์ขาเรียวตัวนี้สวมใส่สบาย ไม่อึดอัดช่วงรอบเอวและถ้าคุณสวมใส่พอดีก็จะทำให้คุณมีความสุขไปด้วย โทชิซังใช้เวลาหลายเดือนรวบรวมเอกสารสำคัญของแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อศึกษาการตัดทรงปกตินี้ให้ทุกคนได้ใส่
2. C.T.L กางเกงยีนส์ทรงตรงขาสลิม – BENGARA (INDIAN RED)
กางเกงยีนส์รุ่นนี้เป็นทรงเข้ารูปกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นทรงตรงขาปกติ และเป็นอีกครั้งที่โทชิซังกับทีมของเขาพยายามอย่างมากที่จะตัดยีนส์ออกมาให้มีขนาดพอเหมาะ ซึ่งดูทันสมัยกว่ารุ่นทรงตรงขาปกติของ COTTLE เอง ดังนั้นยีนส์รุ่นนี้จึงมีดีเทลที่แตกต่างด้วย เช่น ซิปและไม่มีหมุดซ่อนอยู่ กระเป๋าด้านหลังนอยู่ใกล้กันและกระเป๋าเหรียญถูกย้ายไปกึ่งกลางมากขึ้นเพื่อเพิ่มความเพรียวบาง ทรงเป้าสูงใส่สบายและใส่ได้ไม่มีเอ้าท์ นี่อาจเป็นทางเลือกสำหรับทุกคนที่ต้องการทรงขาตรงแต่กระชับช่วงขาแต่ไม่ใช่ยีนส์เอวต่ำ
เราขอนำเสนอ solid rigid อย่างที่ทราบกันดีว่า ผ้ายีนส์ที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอน sanforised (การทำให้ผ้าอยู่ตัว) จะหดตัวลงเล็กน้อยหลังจากแช่ครั้งแรก ซึ่งควรแช่ซ้ำอีกหลังจากนั้น ส่วนใหญ่คนรักยีนส์จะเข้าใจ หากคุณอยู่ในตลาดยีนส์ที่แตกต่างกันไม่เน้นลุคฉูดฉาด แนะนำว่า COTTLE เหมาะกับคุณ แล้วคุณจะรักแบรนด์นี้อย่างจัง ขั้นตอนที่พวกเขาผลิตกางเกงยีนส์ด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนใครคือ การคิดค้นผลิตสีย้อมของตัวเอง ปั่นเส้นด้ายเอง หล่อกระดุมเหล็กเอง คุณจะต้องทึ่งในดีเทลชั้นเลิศที่ใส่ได้ทุกวัน เพราะกางเกงยีนส์ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้สบาย เหมาะกับทุกโอกาส เนื้อสวยงามมาก เรามั่นใจว่าคนจะใส่ยีนส์แบรนด์นี้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น
โทชิซังเองพูดว่า “ถ้าคุณซื้อสินค้าบางอย่างจาก COTTLE ผมมั่นใจว่าคุณเลือกถูกแล้ว คุณจะได้พบสิ่งของที่คุณคนเดียวเท่านั้นจะได้สัมผัสที่สุดของเดนิมยีนส์ด้วยการลองใส่เอง ผมขอบคุณมากที่พวกคุณเลือก COTTLE
Leave a Reply