TANUKI “EARTH SERIES” รีวิวโดย ISAAC PAUL แห่ง PIGEON TREE CRAFTING

Tanuki เพิ่งเปิดตัวเดนิมใหม่ล่าสุด “Earth Series” และงานนี้เราก็ได้ Isaak Paul หรือที่รู้จักกันดีในนามของแขกรับเชิญบล็อก Denimhound  บล็อกสุดเจ๋งที่เต็มไปด้วยรีวิวของยีนส์แจ่มๆ หลายรุ่น หากคุณพร้อมจะรู้ถึงความพิเศษสุดของยีนส์ Tanuki รุ่นนี้แล้ว ตามเรามาดูพร้อมๆ กัน

สำหรับคนที่ไม่รู้จักผม ผมชื่อ Isaak Paul มีแบรนด์เป็นของตัวเองคือ แบรนด์ Pigeon Tree Crafting ผมทำเครื่องประดับหนังที่มีสไตล์เหมาะกับทุกคน และเป็นคนที่หลงใหลในทุกขั้นตอนการผลิตงานคราฟ

มันไม่ใช่คำพูดเว่อร์วังเกินจริง ถ้าผมจะบอกว่าผมมีความสุขและประสบความสำเร็จอย่างมากในวงการเดนิม ซึ่งหากไม่มีคอมมูนิตี้ยีนส์ ผมคงไม่ได้มายืนและทำงาน ณ จุดนี้ได้อย่างมั่นใจ ผมอยากจะเกริ่นนำรีวิวนี้แบบสั้นๆ เพื่อให้คุณเข้าใจว่ากางเกงยีนส์มีความสำคัญกับผมมากขนาดไหน พร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลย!

วันนี้ผมมารีวิวของใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวจาก Tanuki, the EJKT “Earth Series” 18oz แจ็คเก็ต Type 3 ที่ได้รับการโมดิฟายจาก “พิมพ์เขียว” มาแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ และอีกชิ้นหนึ่งคือET 18oz “Earth Series”กางเกงยีนส์เทเปอร์ ซึ่งทั้งสองชิ้นนี้ไม่ใช่รีวิวแรกของแบรนด์นี้ ผมเพลินกับงาน Red Cast Tapered (RCMST1) และ Double Indigo Type II (IDJKT2) ของ Tanuki ที่ได้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี และอันที่จริงก็เป็นเหตุผลหลักที่ผมหยิบเอาแจ็คเก็ตและกางเกงยีนส์ทั้งสองรุ่นนี้จากTanuki ขึ้นมา ซึ่งก็ถือเป็นรีวิวรอบที่ 2 ของแบรนด์นี้

Tanuki อาจจะทำตัวลำบากหน่อยในวงการยีนส์ เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีเบื้องหลังค่อนข้างลึกลับ การสร้างแบรนด์จากการรวมตัวกันของเหล่ามาสเตอร์แห่งเดนิมจากหลายๆ แบรนด์ ทำให้เกิดกระแสเล็กๆ ซึ่งมันก็มีเหตุการณ์ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมมีหลายคนที่ไม่พอใจ และเขียนฟอรั่มถึงแบรนด์ในแง่ไม่ดี เพียงเพราะแบรนด์ไม่ได้บอกที่มาที่ไปอย่างเปิดเผย สำหรับผมแล้วถือเป็นเรื่องเจ๋งด้วยซ้ำไปที่จะเป็นแบรนด์ลึกลับ และสร้างความสนใจและงานดีๆ ให้กับวงการยีนส์ นอกจากนี้ตราบใดที่แบรนด์ไม่ได้ออกมาโกหกหลอกลวง ผมก็เต็มใจจะเป็นลูกค้าไปตลอดชีวิต

คัตติ้ง : เทเปอร์ มาเจาะกันให้ลึกๆ ว่าทำไมผมถึงชอบฟิตติ้งของ Tanuki แจ็คเก็ตตัวนี้ถือว่าเพอร์เฟคสำหรับคนที่มีทรงลำตัวแบบผม คือตัวไม่ล่ำ แต่ก็ไม่ผอมจนเกินไป (182 cm, 79 kg) สิ่งที่สังเกตเห็นก็คือแจ็คเก็ตตัวนี้มีความยาวไม่พอจะให้มีที่ใส่กระเป๋าสำหรับทำให้มืออุ่น (ซึ่งคุณอาจจะไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่ามันจำเป็นในชีวิตมั้ย จนกว่าจะเคยได้ใส่แจ็คเก็ตที่มีกระเป๋าประเภทนี้นั่นแหละ) แต่ด้วยทรงที่ไม่ยาวจนเกินไป ทำให้ชายแจ็คเก็ตตัวนี้พอดีกับช่วงใต้เข็มขัด ว่ากันตรงๆ ทุกวันนี้เราก็ไม่ได้สวมเสื้อทับในกันอยู่แล้ว และแจ็คเก็ต Type 2 หรือ 3 ที่ผลิตตามสไตล์วินเทจแบบเก่าก็แค่ทำออกมาให้มีความยาวถึงแค่เส้นเอว พอสวมแล้วก็ยังมองเห็นช่วงล่างของเสื้อเชิ้ตด้านใน ซึ่ง EJKT ก็เป็นแบบเดียวกัน คือไม่ได้ผลิตออกมาให้กลบช่องว่างตรงนี้ได้ แต่ถ้าถามผมว่าแบบนี้ดีแล้วมั้ย ผมจะตอบว่าดีที่สุดแล้ว เพราะความยาวเท่านี้จะสร้างความสมดุลให้กับลุค และความสมดุลนี้แหละคือเหตุผลที่ทำให้คนเราสวมแจ็คเก็ตยีนส์ denim jacket.

ผมเลือกยีนส์ทรงเทเปอร์คัตติ้งรุ่นนี้ ด้วยเหตุผลเดียวกันกับRed cast tapered ไอเท็มที่ผมอดทนรอมาถึง 6 เดือน ทำไมน่ะหรอ? เพราะทรงนี้เป็นหนึ่งในคัตติ้งที่สบายที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมา ช่วงบนมีพื้นที่และความสูงของเอวเหมือนผลิตขึ้นมาให้ผมโดยเฉพาะ มันไม่ใช่แบบเอวต่ำเหมือนกับแบรนด์ญี่ปุ่นแบรนด์อื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่เอวสูงเหมือนใส่ผ้าอ้อม ทรงเทเปอร์ของรุ่นนี้เป็นความพอดีที่ผมชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือเพอร์เฟค ไม่สลิมเกิน และไม่กว้างเกิน มันดูเป๊ะมากเมื่อพับ 2 ทบ และใส่คู่กับรองเท้าบู๊ทส์อย่าง Red Wing Beckmans หรือ Trumans

ขนาด ทั้งสองชิ้นที่มาอยู่ในมือผมนี้เป็นแบบ One-washed ซึ่งหมายความว่า ถึงแม้ยีนส์จะเป็น Unsanforized แต่ก็ได้รับการแช่มาแล้ว ดังนั้นการซักเองอีกรอบจึงมีผลน้อยมากต่อขนาด เมื่อเทียบกับยีนส์ที่เป็น Non-washed ในส่วนของฟิตติ้งนั้นผมมีข้อสงสัยอยู่อย่างนึงก็คือ แบรนด์ได้มีการปรับเปลี่ยนเทเปอร์คัตติ้ง เนื่องจากตัวผมเองคุ้นเคยกับ Red Cast แต่พอใส่ไปได้ 2-3 หน ช่วงบนกลับยืดออก ทำให้ใส่สบายแบบสุดๆ ผมได้วัดขนาดมาแชร์กันให้ดูด่านล่างนี้

EJKT (Jacket) size 42
21” หน้าอก
18.5” ไหล่
26” แขน
25” ความยาวถึงกลางหลัง

ET (Jeans) size 33
17” เอว
10.5” ความยาวเป้าด้าหน้า
12.5” ความยาวเป้าด้านหลัง
11” ต้นขา
33” ความยาวตะเข็บ
7” ความกว้างปลายขา

ขนาดที่ผมวัดมานี้ค่อนข้างตรงกับที่เห็นบนเว็บไซต์ อาจจะมีใหญ่หรือเล็กกว่าบ้างเล็กน้อยเท่านั้น ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเกี่ยวกันมั้ย แต่ขนาดที่เห็นนี้น่าจะเป็นแบบ One-washed ซึ่งเคล็ดลับสำหรับนักเลงยีนส์ที่ชื่นชอบเดนิมแบบ Unsanforized ก็คือ ขนาดของเอวนั้นควรใช้ตัวเลขก่อนซักเป็นมาตรฐาน ส่วนอื่นๆ นั้นให้ใช้ตัวเลขหลังซักเป็นมาตรฐาน เพราะช่วงเอวนั้นส่วนใหญ่มักจะยืดกลับมาเท่าขนาดเดิมหลังจากสวมใส่ ในส่วนของความยาวตะเข็บ ล่าสุดก็ทำผมแอบกังวล เพราะเลือกที่ความยาว 33” แต่มันดันสั้นเกินไป ซึ่งสุดท้ายผมจึงเลือกสวมคู่กับบู๊ทส์ ให้ปลายขายีนส์มีความยาวแค่เตะปลายรองเท้า ผลคือเท่ห์ไปอีกแบบ อย่างไรก็ตาม จุดนี้ผมเข้าใจว่าเราต่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง แต่ลุคคลีนๆ โชว์บู๊ทส์ก็เป็นทางเลือกที่เจ๋งไม่หยอก

เนื้อผ้า: The earth jacket และ เป็นกางเกงยีนส์ ผ้า 18 oz เท่ากันทั้งคู่ และจะบอกว่ามันเท่ห์สุดๆ! และอดไม่ได้ที่จะต้องเทียบกับ The Strike Gold โดยยีนส์ 2 รุ่นนี้ทั้งหยาบและมีขน เท็กเจอร์มาเต็มตามมาตรฐานและสไตล์ของเดนิมญี่ปุ่น และ ณ จุดนี้ ในฐานะ “คนในวงการเดนิม” ผมก็มองกว้างๆ ถึงหลายๆ ปัจจัย ตั้งแต่เอกลักษณ์ของผ้า, ดีเทล, โครงสร้าง และทรง ซึ่งถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะถือว่าสำคัญมาก แต่สุดท้ายเราก็มักจะมองถึงเรื่องฟิตติ้งและทรงมาเป็นอันดับแรก แต่ถ้าถามผมว่าคิดแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ผมคงตอบว่ามันก็ทั้งถูกและผิด เนื่องจากตัวผมเองเป็นคนที่ชอบยีนส์แบบหลากหลาย แต่ผมก็ไม่ได้จะต้องใส่แต่ทรงที่พอดีกับตัวอย่างเดียว ผมมิกซ์ทุกอย่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ขากระบอกไปจนถึงเทเปอร์ลุค ข้อหนึ่งคือการมีรองเท้าหลากหลายสไตล์จะช่วยคุณได้มากในเรื่องนี้ เพราะอย่างที่เรารู้ ไม่ใช่ทุกอย่างจะแมตช์ได้ดีกับกางเกงปลายขาสลิม

ดีเทล Tanuki ได้อัพเลเวลของแบรนด์ด้วยการเปิดตัวครั้งนี้ เพิ่มความเป็นแบรนด์Tanukiด้วยกระดุม (แรคคูน) และปรับผ้าซับในกระเป๋า เหมือนกับที่ผมบอกตอนต้น สิ่งหนึ่งที่ผมให้ความสำคัญก็คือดีเทล ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่อย่างแรกที่เรามองเห็น แต่สำหรับผมถือเป็นหัวใจสำคัญ และแล้วผมก็ได้เริ่มใช้ระยะเวลาที่ยาวนานในการแกะดีเทลทุกส่วน ซึ่งขอบอกว่า Tanuki ก็ทำจุดนี้ได้ดีไม่แพ้กัน ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ NI ( 2 ขีดสีแดงและขาว) หมายถึงประเพณีและการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับผ้าซับในสวยเนี้ยบลายตาราง และเย็บตะเข็บขาด้านในด้วยด้ายสีฟ้าเข้ม ส่วนแจ็คเก็ตกระดุมเม็ดแรกเป็นสีฟ้า ฝาปิดกระเป๋าหน้าอก ทั้งหมดคือดีเทลที่ผมชอบในงานแจ็คเก็ตตัวนี้

อันที่จริงแล้วผมก็ไม่ใช่พวกที่เน้นเรื่องโครงสร้างอะไรมาก แต่ผมชอบยีนส์ที่มีงานประณีต และ
งานของ Tanukiขอบอกเลยว่าไม่มีที่ติ ผมลองเอางาน 4 ตัวของแบรนด์นี้มาวางเรียงกันและมองเห็นความเนี้ยบแบบสุดๆ ตั้งแต่ตะเข็บไปจนถึงทุกดีเทล และยังพบว่า Red Cast เทเปอร์นั้น ยิ่งซักยิ่งเจ๋ง ยิ่งซัก ยิ่งน่าสนใจ เพราะตัวนี้เป็นยีนส์ที่ผมสวมสัปดาห์ละ 5 วันมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ซักไปทั้งหมด 5 ครั้ง ใส่เป็นเพื่อนร่วมทางไปยุโรปเกือบเดือน แถมยังใส่ไปทำงาน ซึ่งทั้งหมดนี้หมายความว่ายีนส์ตัวนี้ได้สัมผัสอากาศที่หลากหลาย นอกจากนี้ผมยังวางแผนไว้ว่าจะดูแลรักษาด้วยวิธีการทั่วๆ ไป คือไม่กังวลที่จะต้องซัก และใส่ตามที่ยีนส์ถูกผลิตขึ้นมาให้ใช้สอย แต่ผมก็ยังคาดหวังเรื่องเฟดนะ ซึ่งจนกว่าจะถึงตอนนั้น ผมก็ขอสนุกกับช่วงระยะเวลาระหว่างทางที่ได้สวมใส่ก่อนก็แล้วกัน และถ้าหากตอนนี้ Tanuki เริ่มทำเสื้อเชิ้ตออกมาล่ะก็ ผมคงจะตกที่นั่งลำบากแน่ๆ ขอบคุณเพื่อนสนิทอย่าง Greg the Denim Hound ที่แนะนำสิ่งดีๆ ให้ผมได้สนุกด้วย และแน่นอนว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ผมจะฟินไปกับแบรนด์นี้

ขอบคุณครับ
Isaac

ป.ล. เรายินดีที่จะนำเสนอไอเท็มคูลๆ จากTanuki บนเว็บไซต์ Denimio